เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ
การระบาดของโรคโควิด-๑๙ สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้คนในสังคมมากมาย ความตื่นตระหนกดังกล่าว เกิดขึ้นเพราะความกลัวที่ว่า ติดโควิดแล้ว “ตายได้” มาตรการต่างๆนานา จึงถูกกำหนดมาเพื่อ “ลดอัตราการตาย” ไม่ว่าจะเป็นมาตรการเว้นระยะห่าง มาตรการปิดบ้านปิดเมือง ตลอดจนการระดฉีดวัคซีน มาตรการเหล่านี้ สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล มีคนตกงานเพิ่มขึ้นมากมาย ธุรกิจรายเล็กมากมายต้องปิดกิจการลง ทุกคนยอมทำตามเพื่อเป้าหมายเดียวกัน “ลดอัตราการตาย” แต่หลังจากดำเนินการมาครบสองปี เป้าหมายที่ตั้งไว้ เป็นไปตามคาดหวังไหม?
จากข้อมูลสถิติผู้เสียชีวิตของประเทศไทย ในปี ๒๕๖๔ คนไทยเสียชีวิตจากทุกสาเหตุ 563,650 ราย ในจำนวนนี้เป็นการเสียชีวิตจากโควิด-๑๙ 14,509 ราย โดยเพิ่มขึ้นจากปี ๒๕๖๓ ถึง 62,212 ราย หรือเพิ่มขึ้น 12.4% โดยในปี ๒๕๖๓ มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 501,483 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตจากโรคโควิด-๑๙ 7,163 ราย ที่น่าสนใจคือ หากเทียบกับปี ๒๕๖๒ ที่ยังไม่มีการระบาดของโรคโควิด-๑๙ในประเทศไทย อัตราตายในปี ๒๕๖๓ ลดลงประมาณ 1% ผิดจากปี ๒๕๖๔ ที่มีอัตราตายเพิ่มขึ้นถึง 12% โดยที่แม้ว่าจะตัดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-๑๙ ออกแล้วยังมีจำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุอื่นๆเพิ่มขึ้นถึง 47,703 ราย
ในปี ๒๕๖๓
มาตรการต่างๆที่นำมาใช้ในการแก้ปัญหาโควิด-๑๙ ไม่แตกต่างจากมาตรการในปี ๒๕๖๔
มีเพียงข้อเดียวที่ต่างกันคือ ในปี ๒๕๖๓ ไม่มีการระดมฉีดวัคซีน ในขณะที่ปี ๒๕๖๔
มีการระดมฉีดวัคซีนหนึ่งร้อยล้านโดส
หากพิจารณาจำนวนผู้เสียชีวิตรายเดือนจะเห็นว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
จะเห็นเริ่มเห็นความแตกต่างระหว่างจำนวนผู้เสียชีวิตในปี ๒๕๖๔ กับปีอื่นๆ
ความแตกต่างนี้จะเห็นชัดเจนมากขึ้นตามลำดับเดือนถัดๆมา
ในเดือนสิงหาคมที่มีการระบาดสูงสุด จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก
ที่น่าสนใจคือ ภายหลังจากพีคสูงสุดในเดือนสิงหาคม ยอดผู้เสียชีวิตจากโควิด-๑๙
ก็ลดลงมาเป็นลำดับโดยตลอด
ตรงกันข้ามกับยอดเสียชีวิตโดยรวมที่ยังคงพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จำนวนผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมากนี้มาจากไหน มาตรการที่ใช้ในปี ๒๕๖๔
ต่างจากมาตรการที่ใช้ในปี ๒๕๖๓ อย่างไร ทำไมทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น
📝 : นิลฉงน นลเฉลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น