เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ
ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เป็นปัญหาที่สร้างผลกระทบในวงกว้างต่อประเทศต่างๆทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย ในขณะที่มีความพยายามในการแก้ปัญหาโดยใช้มาตรการในการป้องกันโรคมาตรการเหล่านั้นล้วนเป็นมาตรการป้องกันขั้นปฐมภูมิ (primary prevention) ทั้งสิ้น มาตรการเหล่านี้ต่อให้มีประสิทธิภาพในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค แต่ก็ส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นอย่างมากสร้างปัญหาทางสังคมอื่นๆต่อไป บทความนี้จึงต้องการชี้ให้เห็นการนำมาตรการการป้องกันขั้นทุติยภูมิมาใช้ในการแก้ปัญหา โดยจะอธิบายถึงความหมาย วิธีการ เงื่อนไขความสำเร็จและประโยชน์ที่ได้รับจากการนำมาตรการป้องกันระดับทุติยภูมิมาใช้ เพื่อให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ในการแก้ปัญหานี้ของประเทศที่ได้อ่านบทความนี้ จะได้นำแนวทางนี้มาดำเนินการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิดต่อไป
การป้องกันโรคสามขั้น
ในกระบวนการป้องกันโรคใดๆก็ตามนั้นจะเป็นมาตรการป้องกันที่ครบถ้วนสมบูรณ์จำเป็นต้องประกอบไปด้วยมาตรการป้องกันครบทั้ง
3 ขั้น
กล่าวคือ
1. ขั้นปฐมภูมิ
(primary prevention) มาตรการขั้นนี้มีเป้าหมายสำคัญในการลดอุบัติการณ์ของโรคหรือ
ลดการติดเชื้อ ลดการแพร่ระบาดของเชื้อ
2. ขั้นทุติยภูมิ
(secondary prevention) มาตรการขั้นนี้มีเป้าหมายสำคัญในการลดอัตราการตาย
(mortality)
และอัตราการป่วยหนัก (morbidity)
3. ขั้นตติยภูมิ (tertiary prevention) มาตรการขั้นนี้มีเป้าหมายสำคัญในการลดความพิการจากโรค
(disability) โดยให้การฟื้นฟูสภาพผู้ป่วยให้กลับคืนสู่สภาพปกติให้มากที่สุด
มาตรการทั้งสามขั้นนี้จำเป็นต้องดำเนินการร่วมกัน
ทำไปพร้อมๆกันจะเน้นดำเนินการมาตรการขั้นหนึ่งขั้นใดเพียงขั้นเดียวมิได้
ปัญหาที่ส่งอาจผลต่อมาตรการป้องกันขั้นปฐมภูมิ
มาตรการขั้นปฐมภูมิ
หมายถึงมาตรการป้องกันในสองด้านหลักคือ
มาตรการด้านสังคม หมายถึง
มาตรการการเว้นระยะ
การสนับสนุนการทำงานจากบ้าน การกักบริเวณ
การปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาด ตลอดจนมาตรการบังคับใส่หน้ากาก มาตรการเหล่านี้ใช้ในการป้องกันการแพร่ระบาดได้
แต่ก่อให้เกิดผลกระทบในแง่เศรษฐกิจเป็นปริมาณมาก
มาตรการด้านสาธารณสุข หมายถึงมาตรการเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกาย ซึ่งแบ่งได้เป็น 2 แนวทางคือ
- มาตรการเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันเสริม (adaptive immune response) ซึ่งหมายถึงการฉีดวัคซีนชนิดต่างๆ
- มาตรการเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันหลัก (innate immune response) ซึ่งก็คือมาตรการส่งเสริมสุขภาพ อันได้แก่ การออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์ถูกสุขลักษณะ การหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์ การขับถ่ายอุจจาระเป็นประจำทุกวัน และการรักษาสภาวะอารมณ์ให้สดใสมีความสงบสุข
อย่างไรก็ดีจะเห็นว่าในปัจจุบันนี้มาตรการที่ถูกนำมาใช้หลักๆคือมาตรการด้านสังคม
ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาด้านเศรษฐกิจซึ่งมีผลกดดันไม่ให้สามารถดำเนินการมาตรการเหล่านี้ต่อเนื่องได้เป็นเวลานาน
ทั้งยังสร้างความตื่นตระหนก ความวิตกกังวลให้กับสังคม
อันมีผลทำให้ภูมิคุ้มกันของประชาชนลดลง
ในด้านสาธารณสุข
มาตรการที่เน้นหลักคือ การฉีดวัคซีน ซึ่งมีปัญหาที่อาจจะกระทบต่อการบรรลุผลตามเป้าหมายได้หลายประการดังนี้
- ไม่สามารถมีปริมาณวัคซีนจำนวนที่พอเพียงกับการใช้ และประเทศไทยไม่สามารถพึ่งพาวัคซีนจากภายนอกประเทศได้เนื่องจากวัคซีนเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงประเทศผู้ผลิตวัคซีนย่อมเก็บวัคซีนเพื่อใช้ในประเทศเขาก่อน จึงอาจมีการสั่งระงับการส่งออกหากสถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศผู้ผลิตทวีความรุนแรงขึ้น ดังที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศอินเดีย กำลังการผลตวัคซีนของประเทศไทยเองก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ที่มีมากถึง หนึ่งร้อยล้านโดส
- การฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมายจำเป็นต้องฉีดให้ได้วันละ สามแสนรายเป็นเวลาติดต่อกัน 300 วัน ซึงเป็นปริมาณที่มาก และอาจไม่สามารถทำได้ตามเป้าภายในเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ตัวเลขดังกล่าวยังคำนวณจากข้อมูลประชากรในระบบ มิได้คำนึงถึงกลุ่มประชากรแฝง ประชากรนอกระบบและแรงงานต่างด้าวที่มีเป็นจำนวนมากในประเทศ
- การกลายพันธุ์ของเชื้ออาจมีผลทำให้วัคซีนที่ใช้ไม่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสบางสายพันธุ์ได้ และไวรัสสายพันธุ์เหล่านี้ได้แพร่ระบาดเข้ามาในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของไทยแล้ว
- ผลข้างเคียงจากวัคซีนที่เกิดขึ้น อาจเป็นผลให้ประชากรส่วนหนึ่งไม่ยินยอมที่จะฉีดวัคซีน ผลข้างเคียงเหล่านี้จะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเมื่อมีการฉีดวัคซีนจำนวนมากขึ้น
ด้วยเหตุผลดังกล่าวมาข้างต้น การพึ่งมาตรการหลักในการป้องกันขั้นปฐมภูมิเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิดจำเป็นต้องใช้มาตรการป้องกันขั้นทุติยภูมิเข้ามาประกอบด้วยดังจะได้อธิบายต่อไป
มาตรการป้องกันขั้นทุติยภูมิ
ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นว่ามาตรการขั้นทุติยภูมินี้เป็นมาตรการที่เน้นการลดอัตราการตาย
(mortality) และอัตราการป่วยหนัก
(morbidity) โดยหัวใจหลักของมาตรการนี้คือ
การค้นหาผู้ป่วยแต่เนิ่น ๆ และให้การรักษาแบบทันท่วงที การให้การรักษาในระยะแรกของการป่วยนี้จะทำให้ผลการรักษาดี
ลดอัตราการเกิดปอดอักเสบ และลดอัตราการตายลง
โดยการจะดำเนินการตามมาตรการขั้นนี้ได้ ต้องมีเงื่อนไขที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ ประชาชนต้องสามารถเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ปลอดภัย โดยเฉพาะยาที่ใช้ในการรักษาระยะแรกๆของโรค
โดยยาเหล่านั้นต้องมีคุณสมบัติสำคัญคือ
- ปลอดภัย
- มีประสิทธิภาพ
- สามารถผลิตได้เองภายในประเทศ
ทั้งนี้ขั้นตอนสำคัญในการได้มาซึ่งยาดังกล่าวจำเป็นต้องมีการทำวิจัยทางคลินิกอย่างเป็นระบบ
มีการเก็บข้อมูลบุคคล อาการเจ็บป่วย ประวัติโรคประจำตัว การตรวจร่างกาย
ค่าสัญญาณชีพ ค่าระดับออกซิเจนในเลือด ผลการตรวจเอกซ์เรย์
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ ทั้งการตรวจหาเชื้อ การตรวจหาภูมิคุ้มกัน
การตรวจหาสารอักเสบ (cytokines)
การตรวจเพื่อดูภาวะการแข็งตัวของเลือด
การบันทึกผลข้างเคียงของการรักษา
หรือการตรวจอื่นๆที่ใช้พยากรณ์ความรุนแรงของโรคได้
กระบวนการดังกล่าวจะสร้างข้อมูลเชิงประจักษ์ที่สามารถสร้างความมั่นใจให้กับแพทย์
บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทั่วไปว่า ยาที่แนะนำให้ใช้ในมาตรการป้องกันขั้นทุติยภูมิเป็นยาที่ปลอดภัยมีประสิทธิภาพจริง
ประโยชน์ที่จะได้รับจากมาตรการป้องกันขั้นทุติยภูมิ
- สามารถลดอัตราการป่วยรุนแรง และอัตราการตายจากการป่วยด้วยโรคโควิด 19 ลงซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการล่มสลายของระบบสาธารณสุข
- ลดความวิตกกังวลของสังคม ช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจมากขึ้น
- ผู้ป่วยที่หายจากโรคสามารถบริจาคพลาสมาเพื่อใช้ในการบำบัดรักษาผู้ป่วยโควิดที่มีอาการรุนแรง
- ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ
~~~~~~~☆●☆~~~~~~
📝 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น